เงื่อนไขการใช้งาน และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ข้อกำหนดและเงื่อนไขของการให้บริการเหล่านี้จะควบคุมบัญชีของคุณใน kidkai.com และแอปพลิเคชัน kidkai (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียก "เว็บไซต์ kidkai.com" ว่า "เว็บไซต์" และ “แอปพลิเคชัน kidkai” ว่า “แอปพลิเคชัน” และเรียกรวมเว็บไซต์ kidkai และ แอปพลิเคชัน kidkai ว่า “แพลตฟอร์ม”) ซึ่งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ดำเนินการโดย (บริษัทออฟเฟอร์มี จำกัด (สำนักงานใหญ่) (“บริษัท”)

เงื่อนไขการให้บริการเหล่านี้ได้รวมนโยบายความเป็นส่วนตัวของ kidkai ทั้งการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางเปิดช่องทางให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายหรือบุคคลอื่นๆ ได้ติดต่อทำการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการ หรือให้ข้อมูล หรือให้กิจกรรมอื่นๆ เนื้อหาทั้งหมดที่โพสต์บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โปรดอ่าน เงื่อนไขการให้บริการเหล่านี้อย่างระมัดระวัง โดยการเข้าถึงการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันคุณตกลงที่จะผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการเหล่านี้ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขการให้บริการเหล่านี้กรุณาหยุดใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน kidkai โดยในเงื่อนไขนี้เมื่อมีการพูดถึงการซื้อหรือขาย ให้รวมถึงการให้บริการ การได้ข้อมูล หรือกิจกรรมอื่นๆ โดยผู้ใช้หรือบริษัทด้วย

  1. บริการ
    1. บริษัทจัดให้มีการให้บริการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสำหรับทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะขายและสามารถทำธุรกรรมซื้อขายผลิตภัณฑ์กับผู้ใช้รายอื่นได้
    2. สัญญาซื้อขายผลิตภัณฑ์ทั้งปวงในระบบบริการ ให้ทำขึ้นโดยผู้ใช้ซึ่งขายผลิตภัณฑ์ ("ผู้ขาย") กับผู้ใช้อีกรายซึ่งซื้อผลิตภัณฑ์ ("ผู้ซื้อ") โดยบริษัทไม่ใช่คู่สัญญาในสัญญาซื้อขายผลิตภัณฑ์หรือตัวแทนขายในการหรือซื้อแต่อย่างใด
    3. ให้ผู้ใช้รับผิดชอบเรื่องทั้งปวงเกี่ยวกับธุรกรรมที่ทำขึ้นระหว่างผู้ใช้กันเองโดยลำพัง รวมทั้งการประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การซื้อขายผลิตภัณฑ์ การเจรจาเงื่อนไขธุรกรรม การส่งมอบรับมอบผลิตภัณฑ์ การชำระราคาผลิตภัณฑ์ การยกเลิกหรือบอกเลิกสัญญาซื้อขาย การรับประกันความชำรุดบกพร่อง และการจัดการเรื่องการคืนผลิตภัณฑ์และคืนราคา บริษัทไม่ขอรับผิดชอบหรือรับผิดเพื่อธุรกรรมใดๆ ระหว่างผู้ใช้ ก่อนจะทำธุรกรรมใดๆ ให้ถือเป็นความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของผู้ใช้แต่ละราย ในการตรวจสอบว่าผู้ใช้รายอื่นซึ่งเป็นคู่สัญญาในธุรกรรมดังกล่าว มีความสามารถในทางกฎหมายหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบว่าผู้ใช้รายอื่นนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วหรือไม่ โดยเมื่อผู้ใช้ได้เข้าทำธุรกรรมตามความเป็นจริงแล้ว ให้ถือว่าผู้ใช้ได้ตรวจสอบความสามารถในทางกฎหมายของผู้ใช้อีกฝ่ายดังกล่าว และได้รับทราบเป็นอย่างดีแล้วว่าการเข้าทำธุรกรรมใดๆ กับผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือคนเสมือนไร้ความสามารถนั้น อาจไม่สามารถใช้บังคับต่อกันได้ บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความสูญหายหรือเสียหายใด ๆ อันเกิดจากธุรกรรมที่ได้ทำขึ้นกับบุคคลดังที่ได้กล่าวมา
    4. ให้ผู้ใช้ระงับข้อพิพาทอันเกิดจากธุรกรรมของตนด้วยทุนทรัพย์ตนเอง และผู้ใช้ไม่อาจขอให้บริษัทจัดการข้อพิพาทให้ตนได้ อย่างไรก็ตามบริษัทอาจใช้ดุลยพินิจเข้าแทรกแซงเพื่อระงับข้อพิพาทได้ ในกรณีที่ตนเห็นว่าจำเป็นแก่การยังให้บริการสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
  2. หมายเหตุเกี่ยวกับการใช้บริการ
    1. ผู้ใช้อาจเริ่มใช้บริการได้หลังตนยอมรับเงื่อนไขการใช้งานการ ให้ข้อมูลส่วนบุคคล และได้รับการรับรองตัวตนที่แท้จริงตามบัญชีของตนแล้ว
    2. ให้ผู้ใช้ลงทะเบียนข้อมูลจำเป็นทั้งปวงเพื่อให้สามารถใช้เนื้อหาและใช้งานบริการได้เต็มที่
    3. ให้ผู้ใช้ดูแลให้ข้อมูลทั้งปวงที่ตนได้ให้ไว้เป็นความจริง ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ให้ผู้ใช้ลงทะเบียนด้วยตนเอง ห้ามมิให้ผู้ใช้ลงทะเบียนผู้ใช้ในชื่อผู้อื่น ถ้าข้อมูลใดที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้ไม่เป็นปัจจุบัน ให้ผู้ใช้ปรับปรุงข้อมูลเช่นว่านั้นให้เป็นปัจจุบันโดยเร็ว ถ้าผู้ใช้รายใดไม่ให้ข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันในระยะเวลาที่เหมาะสมหรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือข้อมูลที่ให้ไว้ไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ บริษัทอาจปฏิเสธหรือระงับการให้บริการบางส่วนจากทั้งหมดแก่ผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้บัญชีและรหัสผ่านดังต่อไปนี้
      1. ให้ผู้ใช้ลงบันทึกเข้าระบบด้วยบัญชีและรหัสผ่านของตนเองเพื่อใช้บริการ ห้ามยกหรือโอนบัญชีให้ผู้อื่นหรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้บัญชีหรือรหัสผ่าน
      2. ให้ผู้ใช้เก็บรักษาบัญชีและรหัสผ่านของตนไว้ให้ปลอดภัย กิจกรรมทั้งปวงที่เกิดขึ้นตามบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้รายใด ให้ถือเป็นกิจกรรมของผู้ใช้ซึ่งครอบครองบัญชีและรหัสผ่านนั้นอยู่
      3. เมื่อผู้ใช้บริการสร้างบัญชี สร้างรหัสผ่าน และ/หรือให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านทางแพลตฟอร์ม ให้ถือว่าผู้ใช้บริการยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
      4. ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าการกระทำใดๆ ผ่านระบบบริการอิเล็ทรอนิกส์ของบริษัท หากได้กระทำไปโดยการลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ โดยการใช้บัญชีและรหัสผ่านของตน ตามเงื่อนไขการใช้งานฉบันนี้แล้ว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องลงลายมือ ชื่อในเอกสารใดๆ และผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวถือเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง อนึ่ง ผู้ใช้บริการตกลงว่าการใช้รหัสประจำตัวถือเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย
    4. ภายใต้ข้อกำหนดข้อ 1.3 และ 2.10 ในเงื่อนไขทั่วไปฉบับนี้ ถ้าบริษัทเห็นว่าผู้ใช้มีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ บริษัทอาจปฏิเสธไม่รับลงทะเบียนให้แก่ผู้ใช้ ระงับการใช้บริการบางส่วนจากทั้งหมดของผู้ใช้หรือดำเนินมาตรการอื่นใดที่จำเป็นหรือสมควรได้ บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากมาตรการเช่นว่านั้น
      1. บริษัทไม่สามารถติดต่อผู้ใช้ผ่านอีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่ตามที่ลงทะเบียนไว้ได้
      2. ผู้ใช้ไม่มีเงินเพียงพอ มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้
      3. ผู้ใช้ถูกพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
      4. ผู้ใช้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบ (20) ปี เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้ใช้บริการได้
      5. จากบันทึกข้อมูลชี้ให้เห็นว่า บริษัทได้ระงับการใช้บริการของผู้ใช้ไปแล้วเนื่องจากผู้ใช้ทำผิดเงื่อนไข
    5. เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้ไม่อยู่ในพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.4.1 ถึง 2.4.5 ข้างต้น บริษัทอาจกำหนดให้ผู้ใช้มอบเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ บริษัทอาจปฏิเสธไม่ให้บริการแก่ผู้ใช้จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการยืนยันได้ บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากการนั้น
    6. ถ้าผู้ใช้รายใดประสงค์จะยกระดับสมาชิกภาพบริการของผู้ขาย ผู้ใช้รายนั้นอาจขอบริษัทให้ยกระดับสมาชิกภาพผู้ขายได้ตามระเบียบขั้นตอนที่บริษัทกำหนดไว้ บริษัทจะตรวจสอบคำขอของผู้ขายและอาจกำหนดให้แสดงข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามที่ตนเห็นว่าจำเป็นแก่การตรวจสอบเช่นว่านั้น ให้บริษัทมีดุลยพินิจโดยลำพังในการตัดสินใจว่าจะอนุมัติตามคำขอหรือไม่ หรือควรมอบสมาชิกภาพประเภทใดแก่ผู้ขอ และบริษัทไม่มีหน้าที่เปิดเผยกระบวนการตรวจสอบแก่ผู้ขอไม่ว่ารายใดทั้งสิ้น บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันเกิดจากการที่ผู้ขอเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบแล้วไม่ได้รับอนุมัติคำขอ
    7. ให้ผู้ใช้รับภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งปวงเกี่ยวกับอุปกรณ์ปลายทางหรือโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ต้องใช้เพื่อเข้าถึงบริการ
    8. ถ้าผู้ซื้อต้องการใบเสร็จค่าซื้อผลิตภัณฑ์ ขอแนะนำให้ผู้ซื้อขอคำยืนยันกับผู้ขายก่อนทำธุรกรรมว่าจะมีใบเสร็จให้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ บริษัทจะไม่สามารถออกใบเสร็จเช่นว่านั้นให้ผู้ขายได้ รวมทั้งไม่มีความรับผิดชอบหรือหน้าที่ใดๆ ให้ต้องกระทำการดังกล่าว
    9. ข้อมูล ภาพ คำพรรณนา และข้อมูลอื่นๆ ทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งโฆษณา ตามที่ลงประกาศแจ้งไว้ในระบบบริการนั้น ผู้ใช้เป็นผู้จัด บรรจุขึ้น และประกาศแจ้งให้ทราบและลงประกาศบนแพลตฟอร์มโดยอัตโนมัติ บริษัทไม่สามารถคัดกรองหรือตรวจสอบเนื้อหาทั้งหมดล่วงหน้าได้ ให้ผู้ใช้ตัดสินใจเองว่า ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ ชอบธรรม หรือเป็นปัจจุบันหรือไม่ บริษัทจะไม่อนุญาตให้ข้อมูล รูปภาพ คำบรรยาย และข่าวสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงการโฆษณาใดๆ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และการคุ้มครองผู้บริโภค ถูกตีพิมพ์ ใส่ข้อมูล หรือประกาศลงบนแพลตฟอร์มของผู้ใช้ ถ้าเนื้อหาเช่นว่านั้นน่าจะขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเงื่อนไขหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรืออาจละเมิดสิทธิ์หรือส่วนได้เสียของบุคคลอื่นใด บริษัทอาจลบเนื้อหานั้น ห้ามเข้าถึงเนื้อหานั้น หรือดำเนินมาตรการจำกัดสิทธิลักษณะอื่นใดได้โดยตรงโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
    10. ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายรับผิดชอบเรื่องการเจรจาและปฏิบัติตามธุรกรรมสัญญาทั้งปวงกันเอง บริษัทไม่ขอให้คำมั่นหรือคำรับประกันไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายเกี่ยวกับความเต็มใจหรือความสามารถของผู้ซื้อหรือผู้ขายในการทำธุรกรรมหรือเกี่ยวกับคุณภาพ ความปลอดภัย หรือความชอบด้วยกฎหมายของผลิตภัณฑ์หรือบริการอันเป็นวัตถุแห่งธุรกรรม ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายยุติหรือระงับข้อพิพาทอันเกิดจากธุรกรรมของตนเอง บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อข้อพิพาทเช่นว่านั้น
    11. ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำต่าง ๆ ของผู้ใช้ เช่น การประกาศแจ้งและลบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การซื้อ และการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระบบบริการ จะส่งเข้าเครื่องบริการของระบบบริการผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เมื่อได้รับข้อมูลนั้นที่ระบบของบริษัทแล้ว การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถือว่ามีผลผูกพันผู้ใช้ซึ่งเป็นผู้ส่งข้อมูล ถ้าผู้ใช้กระทำการหลายอย่างซึ่งขัดหรือแย้งกันเอง ให้ถือตามการกระทำการที่ส่งข้อมูลเข้าระบบบริษัท ส่วนการกระทำอื่นๆ ทั้งปวงให้ถือว่าไม่สมบูรณ์ ให้ผู้ใช้รับผิดชอบความสูญหายหรือเสียหายอันเกิดแก่ตนจากการที่ตนไม่ส่งข้อมูลใดเกี่ยวกับการของตนเข้าระบบบริษัท
    12. ผู้ใช้ควรใช้วิจารณญาณขณะใช้บริการ และต้องรับผิดชอบผลทั้งปวงอันเกิดจากการใช้บริการ บริษัทไม่ขอรับประกันความเที่ยงตรง เชื่อถือได้ เหมาะสม หรือมีประโยชน์ของข้อมูลและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ผู้ใช้มีให้ บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากการเชื่อถือตามข้อมูลหรือข้อเสนอแนะเช่นว่านั้น
    13. ถ้าบริษัทเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือเกิดความสูญหายหรือเสียหายใดๆ เพราะผู้ใช้ทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ละเมิดสิทธิหรือส่วนได้เสียของบุคคลอื่น ทำผิดเงื่อนไข หรือใช้บริการอย่างไม่เหมาะสม โดยผู้ซื้อตกลงชดใช้เพื่อความสูญหายหรือเสียหายเช่นว่านั้นให้แก่บริษัท เมื่อบริษัทร้องขอ
    14. บริษัทอนุญาตให้ผู้ซื้อสามารถแสดงความเห็น (review) ผู้ขายได้และบริษัทสามารถเปิดเป็นสาธารณะ (publish) ได้ แต่หากความคิดเห็นนั้นไม่ตรงกับความจริง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถแจ้งบริษัท เพื่อแก้ไขหรือปิดการเป็นสาธารณะได้
  3. การประกาศแจ้งข้อมูลผลิตภัณฑ์
    1. ให้ผู้ซื้อพรรณนาข้อกำหนดเงื่อนไขในการซื้อขายผลิตภัณฑ์โดยถูกต้องครบถ้วน และต้องไม่ให้ข้อมูลเกินจริง ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่ทำให้สำคัญผิดได้ หรือข้อมูลหลอกลวง ผู้ใช้พึงจัดการให้ตนมีสิทธิหรือคุณสมบัติที่จำเป็นต้องมีเพื่อขายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งให้มีใบอนุญาตตามความเหมาะสม อีกทั้งพึงจัดการให้การซื้อขายเช่นว่านั้นเป็นไปตามกฎหมายด้วย
    2. บริษัทอาจจำกัดประเภท ปริมาณ และราคาผลิตภัณฑ์และเงื่อนไขอื่นใดในการทำธุรกรรมได้ ห้ามมิให้ผู้ใช้ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ไม่มีเจตนาขาย ผลิตภัณฑ์ที่กฎหมายห้ามโฆษณา และของต้องห้ามอื่นใดที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้บัญชีรายชื่อของต้องห้ามอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ทุกเมื่อขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว โดยมิต้องแจ้งผู้ใช้หรือได้รับอนุมัติจากผู้ใช้ก่อนเป็นการล่วงหน้า ก่อนประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กรุณาตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์อยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าวหรือไม่ สินค้าปลอม สินค้าที่เป็นของต้องห้ามตามที่บริษัทกำหนดไว้ หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดที่เป็นของผิดกฎหมายตามกฎหมายใดๆ ที่บังคับใช้ ห้ามนำมาขายบนแพลตฟอร์มเด็ดขาด บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากการทำผิดข้อกำหนดข้อนี้ ผู้ขายตกลงชดใช้และจัดการมิให้บริษัท ตลอดจนกรรมการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และผู้แทนของบริษัท ได้รับผลกระทบจากสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหาย ความสูญหาย ความรับผิด ต้นทุน และค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งปวงอันเกิดจากหรือเกี่ยวกับการทำผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับใด บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากการทำผิดข้อกำหนดข้อนี้ ผู้ขายตกลงชดใช้และจัดมิให้บริษัท ตลอดจนกรรมการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และผู้แทนของบริษัท ได้รับผลกระทบจากสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหาย ความสูญหาย ความรับผิด ต้นทุน และค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งปวงอันเกิดจากหรือเกี่ยวกับการทำผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับใด
  4. ค่าใช้บริการ

    ผู้ซื้อที่ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มนั้นสามารถใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ขายต้องชำระค่าธรรมเนียมและ/หรือส่วนแบ่งการขาย ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างผู้ขายสินค้ากับทางบริษัท ซึ่งทางบริษัทจะจัดให้มีการอธิบายข้อตกลงและหรือการทำสัญญาก่อนการใช้งาน

  5. นโยบายการจอง บัตรเครดิตและการยกเลิก

    การจอง บริษัทให้สิทธิ์ในการจองซื้อสินค้าโปรโมชั่น Hot Deal แก่ลูกค้า แต่ไม่รับประกันการจองหรือส่วนลดของทางผู้ขาย ไม่รับผิดชอบต่อการบริการ การมีสิทธิ์ หรือการยกเลิกการขายสินค้าจากผู้ขาย บริษัทอาจยุติการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ใช้และไม่ให้ผู้ใช้จองต่อไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามและที่ดุลยพินิจของบริษัท
    บัตรเครดิต บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดที่ใช้บังคับกับบัตรเครดิตรวมทั้งระยะเวลาการหมดอายุ และ/หรือการแลกเครดิตได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
    การยกเลิกการจอง การยกเลิกการจองเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท

  6. การต้องห้าม
    1. บริษัทขอห้ามมิให้ผู้ใช้กระทำการใดๆ ต่อไปนี้ในระบบบริการ ("การต้องห้าม")
      1. ฝ่าฝืนเงื่อนไข
      2. ฝ่าฝืนกฎหมาย คำพิพากษาศาล คำตัดสินหน่วยงานที่มีอำนาจ คำสั่ง หรือมาตรการทางปกครองที่เกี่ยวข้อง
      3. กระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
      4. ละเมิดสิทธิบริษัทหรือสิทธิผู้อื่น
      5. ลงทะเบียนบริการโดยใช้ข้อมูลเท็จ
      6. ขอรับและใช้บัญชีหลายบัญชี
      7. ใช้บัญชีผู้ใช้รายอื่น
      8. ทำธุรกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต รับการรับรอง จดทะเบียน หรือยื่นคำขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบที่กำหนดไว้ หรือโดยไม่ได้รับความเห็นชอบตามที่กำหนดไว้
      9. ประกาศแจ้งข้อมูลใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือทำรายการซื้อโดยไม่มีเจตนาปฏิบัติชำระหนี้ตามธุรกรรมนั้นจริง
      10. ประกาศแจ้งข้อมูลใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือทำรายการซื้อโดยไม่มีความสามารถตามกฎหมายในการเข้าทำนิติกรรม (เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม)
      11. ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่สามารถเสนอหรือส่งมอบให้ได้
      12. ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะจัดส่งให้โดยไม่ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายปกติ (drop shipping)
      13. ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับของต้องห้าม
      14. ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เดิมซ้ำ ๆ
      15. แยกชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์แล้วแยกลงประกาศข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นส่วน
      16. ประกาศขายผลิตภัณฑ์ในราคาสูงกว่าราคาค้าปลีกเดิมของผลิตภัณฑ์ (scalping)
      17. ประกาศขายผลิตภัณฑ์ในราคาต่างจากราคาตลาดมาก เว้นแต่ โปรโมชั่น กิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น hot deal, flash deal หรืออื่นๆ ตามแต่ที่จะได้ตกลงและได้รับอนุญาตจาก บริษัท หรือ บริษัทพิจารณาเห็นสมควร
      18. ลงภาพผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่ง ทำให้สวยงามขึ้น หรือผ่านกระบวนการแปรรูปลักษณะอื่น
      19. ลงภาพผลิตภัณฑ์ที่คลุมเครือหรือไม่ชัดเจน
      20. ประกาศแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน หรือทำให้สำคัญผิดได้โดยประการอื่น
      21. ขายหรือซื้อผลิตภัณฑ์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือผลิตภัณฑ์ปลอมโดยรู้ดีว่าเป็นของผิดกฎหมาย
      22. ขายหรือซื้อของต้องห้ามโดยรู้ดีว่าเป็นของผิดกฎหมาย
      23. ทำรายการซื้อขณะไม่สามารถชำระเงินได้
      24. ทำรายการซื้อเพื่อขายต่อหากำไร
      25. ซื้อผลิตภัณฑ์จากพวกเดียวกันโดยลดราคาให้
      26. จองผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าให้ผู้ซื้อรายใดโดยเฉพาะ
      27. กระทำการใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟอกเงิน
      28. ปฏิบัติชำระหนี้ตามธุรกรรมล่าช้า หรือกีดขวางการปฏิบัติชำระหนี้ตามธุรกรรมนั้น
      29. เสนอทำธุรกรรมนอกระบบบริการ
      30. ใช้เครื่องหมายการค้า คำขวัญ หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทหรือผู้อื่นโดยฉ้อฉล
      31. ใช้บริการเพื่อแสวงหากำไรหรือเพื่อกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการขาย หรือโฆษณาโดยมิได้รับอนุญาตจากบริษัท (เว้นแต่เพื่อขายผลิตภัณฑ์ในระบบบริการ)
      32. กระทำการคุกคามหรือหมิ่นประมาทบริษัทหรือผู้อื่น
      33. สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือผู้อื่น หรือขัดขวางการประกอบกิจการงานของบริษัทหรือผู้อื่น
      34. ปล่อยข่าวลือ กระทำการฉ้อฉล หรือข่มขู่
      35. ใช้ถ้อยคำและกระทำการที่ถือว่ารุนแรงหรือบีบบังคับ
      36. ลงประกาศข้อมูลที่ส่อไปในทางรุนแรงอย่างยิ่งหรือโจ่งแจ้งอนาจาร
      37. ลงประกาศข้อมูลที่เลือกปฏิบัติเพราะเหตุเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา เพศ สถานะสังคม พื้นเพครอบครัว ฯลฯ
      38. ลงประกาศข้อมูลที่สนับสนุนหรือส่งเสริมการฆ่าตัวตาย การทำร้ายตัวเอง และการใช้สารเสพติดให้โทษ
      39. ลงประกาศข้อมูลต่อต้านสังคมอันอาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจไม่ชอบใจแก่ผู้อื่น
      40. มีพฤติกรรมใดในระบบบริการที่มีวัตถุประสงค์ทางลามกอนาจาร
      41. เก็บ เผยแพร่ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้รายอื่น (ยกเว้นการที่ต้องทำเพื่อปฏิบัติชำระหนี้ตามธุรกรรม)
      42. สอดเข้าเกี่ยวข้องกับเครื่องบริการคอมพิวเตอร์ของบริการหรือระบบเครือข่าย
      43. พยายามหาประโยชน์จากช่องว่าง หรือข้อผิดพลาดของระบบบริการ
      44. ใช้วิธีการทางเทคนิคควบคุมบริการโดยมิชอบ
      45. นำซอฟต์แวร์ โปรแกรม ฐานข้อมูล และเอพีไอที่บริษัทใช้เพื่อให้บริการไปทำสำเนา แก้ไข หรือส่งให้บุคคลทั่วไป (เว้นแต่จำเป็นต้องส่งถึงบุคคลทั่วไปเพื่อให้ใช้บริการได้) หรือนำซอฟต์แวร์ โปรแกรม ฐานข้อมูล และเอพีไอนั้นไปทำวิศวกรรมย้อนกลับ ถอดประกอบ หรือจัดการด้วยวิธีอื่นเพื่อนำไปวิเคราะห์
      46. ตั้งคำถามเดิมๆ หรือขอคำปรึกษากับบริษัทซ้ำๆ โดยไม่สมควร
      47. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะไม่เจาะจงตัวบุคคลที่แน่นอน หรือส่งข่าวขยะ
      48. ขัดขวางการให้บริการตามปกติ
      49. นำเข้าซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
      50. นำเข้าซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
      51. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
      52. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
      53. เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามข้อ 6.1.49 ข้อ 6.1.50 ข้อ 6.1.51 หรือข้อ 6.1.52
      54. ลงโฆษณาใดๆ โดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ซึ่งรวมถึง
        • ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง
        • ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะกระทำโดยใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริง หรือไม่ก็ตาม
        • ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
        • ข้อความที่จะทำให้เกิดความแตกแยกหรือเสื่อมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน
      55. แสดงพฤติกรรมลักษณะอื่นที่บริษัทถือว่าไม่เหมาะสม
    2. ถ้าบริษัทเห็นตามควรว่าผู้ใช้รายใดกระทำการต้องห้ามอย่างใดข้างต้นแล้ว บริษัทอาจใช้มาตรการต่อไปนี้ได้โดยตรงโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันเกิดจากมาตรการเช่นว่านั้น
      1. เตือนผู้ใช้
      2. ลบหรือตัดข้อมูลและเนื้อหาทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง หรือใช้มาตรการที่จะทำให้เข้าถึงข้อมูลเช่นว่านั้นไม่ได้
      3. ยกเลิกรายการประกาศและรายการซื้อเสีย
      4. ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ซึ่งกระทำผิดระเบียบเข้าถึงบริการทั้งหมดหรือแค่บางส่วน หรือยกเลิกการลงทะเบียนผู้ใช้ พร้อมประกาศแจ้งเพื่อให้มีผลตามนั้นในระบบบริการ
      5. ในกรณีฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจริเริ่มแจ้งข้อมูลผู้ใช้ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและรายละเอียดธุรกรรมที่เกี่ยวข้องแก่หน่วยงานราชการ หรืออาจให้ความร่วมมือแก่หน่วยงานราชการในการสืบสวนเรื่องนั้นๆ
      6. ดำเนินมาตรการอื่นตามที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นและสมควร
  7. การอนุญาตให้ใช้สิทธิ
    1. บริษัทอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้บริการได้ โดยถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลซึ่งให้โดยปราศจากค่าสิทธิ ไม่อาจมอบหมาย ไม่อาจโอนได้ และไม่ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว
    2. ในการบรรจุขึ้นและ/หรือลงประกาศแจ้งภาพผลิตภัณฑ์ คำพรรณนาผลิตภัณฑ์ ชื่อเล่น ข้อมูลแนะนำตัวเอง สัญลักษณ์รูปและข้อมูลอื่นๆ คำบรรยายหรือข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ผู้ใช้ตกลงอนุญาตให้บริษัทหรือบุคคลภายนอกที่บริษัทกำหนด (เช่น ผู้ให้บริการชำระเงิน หรือผู้ให้บริการเรียกเก็บ/โอนเงิน) มีสิทธิกระทำการต่อไปนี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นระยะเวลาไม่มีกำหนด และไม่จำกัดพื้นที่ คือ (1) ใช้ เก็บ หรือลงประกาศข้อมูลเช่นว่านั้นเพื่อให้บุคคลเฉพาะกลุ่มหรือบุคคลทั่วไปสามารถสืบค้นดูข้อมูลนั้นได้ และ (2) ทำซ้ำ เผยแพร่ ปรับเปลี่ยน แสดง และนำข้อมูลเช่นว่านั้นไปเผยแพร่ออกอากาศสู่สาธารณชนในรูปแบบสิ่งพิมพ์และ/หรืออิเล็กทรอนิกส์ และ (3) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิเช่นว่านั้นช่วยให้ผู้ใช้รับประกันว่า ตนมีสิทธิบรรจุขึ้น ส่ง กรอก หรือให้ข้อมูลและ/หรือสารสนเทศเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ตนจะขายผ่านระบบบริการ
  8. การคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

    เพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าผู้ใช้รายใดหรือบุคคลใดพบว่า ผลิตภัณฑ์หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ภาพผลิตภัณฑ์) ที่ผู้ใช้รายอื่นใดประกาศแจ้งไว้ในระบบบริการอาจละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น ผู้ใช้หรือบุคคลนั้นอาจยื่นข้อร้องเรียนแก่บริษัทหรือแจ้งให้บริษัททราบเหตุที่สงสัยว่าเป็นการละเมิดสิทธินั้นโดยใช้ข้อมูลติดต่อที่ให้ไว้บนแพลตฟอร์มได้ ถ้าผู้ใช้รายใดมีส่วนเกี่ยวข้องสามครั้งขึ้นไปในการละเมิดสิทธิขณะใช้บริการ บริษัทอาจห้ามมิให้ผู้ใช้รายนั้นใช้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดได้ โดยเป็นดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว และโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

    ผู้ใช้เข้าใจและเห็นด้วยว่าบริษัทได้ให้บริการโดยปราศจากค่าใช้จ่าย ดังนั้นบริษัทไม่จำต้องรับผิดชอบสำหรับความเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้ อันเนื่องมาจากการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ อันอาจเกินขึ้นแก่ผู้ใช้ดังที่กล่าวมาข้างต้น

  9. การปราศจากคำรับประกัน และข้อจำกัดความรับผิด
    1. การซื้อขายหรือได้บริการเป็นการซื้อขายและบริการที่ให้ตามสภาพ บริษัทไม่ขอรับประกันไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายว่า บริการปราศจากความชำรุดบกพร่อง (รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคง ความไว้ใจได้ ความเที่ยงตรง ความครบถ้วน การเป็นไปตามข้อกำหนดหรือความคาดหวังของผู้ใช้ ความทันกาล คุณภาพที่ปราศจากข้อผิดพลาด หรือความเสี่ยงของโปรแกรมคอมพิวเตอร์) ไม่ว่าจะโดยเป็นการให้บริการหรือขายสินค้า หรือให้ข้อมูล
    2. เท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการที่ผู้ใช้ใช้บริการ เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในเงื่อนไข
    3. ผู้ใช้ตกลงว่า บริษัทจะไม่รับผิดต่อการสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริการ
    4. ผู้ใช้เข้าใจว่า บริษัทไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ลงโฆษณาบนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน บริษัทเป็นผู้ให้บริการและดูแลการทำธุรกรรมของผู้ค้าที่เป็นบุคคลที่สาม ("ผู้ค้า") บริษัทไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้ค้าใดๆ และไม่รับผิดชอบในการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ผู้ค้าให้
    5. บริษัทมีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่ม หยุด หรือถอนคุณลักษณะใดๆ ของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง บริการการสื่อสารได้ตลอดเวลา บริษัทไม่มีภาระหน้าที่ในการแจ้งให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
    6. ในกรณีที่บริษัทจะต้องมีความรับผิดชอบใดๆ ต่อผู้ให้บริการ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการชำระค่าเสียหายไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้ใช้บริการ
  10. การระงับ เปลี่ยนแปลง และยกเลิกบริการ
    1. หลังแจ้งผู้ใช้ตามสมควรแล้ว (เว้นแต่กรณีฉุกเฉินซึ่งอาจยกเว้นไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า) บริษัทอาจระงับบริการทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเพื่อบำรุงรักษา เปลี่ยน ยกระดับ หรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบบริการหรือเมื่อบริษัทเห็นว่าจำเป็นได้
    2. บริษัทอาจใช้ดุลยพินิจเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกบริการทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ไม่ว่าในเวลาใด
    3. บริษัทไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันเกิดจากการระงับ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการ
  11. การชดใช้

    ผู้ใช้ตกลงชดใช้และจัดมิให้บริษัท ตลอดจนบริษัทย่อย บริษัทในเครือ เจ้าหน้าที่ ตัวแทน และลูกจ้างของบริษัท ได้รับผลกระทบจากการที่มีบุคคลภายนอกเรียกร้องหรือทวงถามสิ่งใดๆ ทั้งปวง รวมทั้งค่าทนายความและ/หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพราะหรือเนื่องจากการใดๆ ที่ผู้ใช้ทำไปผ่านบริการ

  12. การติดต่อ
    1. ถ้าบริษัทเห็นจำเป็นต้องแจ้งหรือติดต่อผู้ใช้ บริษัทอาจประกาศไว้ในระบบบริการหรือติดต่อผู้ใช้ทางอีเมล โทรศัพท์ ไปรษณีย์ หรือวิธีอื่นใดตามสมควร ผู้ใช้ตกลงว่าบริษัทอาจใช้ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และข้อมูลอื่น ๆ ของตนตามที่ลงทะเบียนไว้เพื่อการแจ้งติดต่อได้
    2. ผู้ใช้อาจใช้ข้อมูลติดต่อที่ระบุไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อติดต่อหรือขอคำปรึกษาจากบริษัทได้
  13. การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข

    บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ไม่ว่าในเวลาใดเมื่อบริษัทเห็นว่าจำเป็น รวมทั้งเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ นโยบาย และคำพรรณนาบริการที่เกี่ยวข้องซึ่งประกาศไว้แล้วหรือจะได้ประกาศ เว้นแต่จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ข้อที่เปลี่ยนแปลงให้มีผลนับแต่เวลาประกาศ ในการใช้บริการต่อไปหลังการเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้ยอมรับตกลงผูกพันตนตามเงื่อนไขตามที่เปลี่ยนแปลงไปทุกประการ ถ้าผู้ใช้ไม่ตกลงตามเงื่อนไขใดที่เปลี่ยนแปลง บริษัทอาจยกเลิกการใช้บริการของผู้ใช้ได้ และไม่จำต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ อันอาจเกิดแก่ผู้ใช้จากการยกเลิกนั้น

  14. การแยกออกจากกันได้ของเงื่อนไข

    ถ้าส่วนใด ๆ ของเงื่อนไขถูกวินิจฉัยหรือตัดสินว่าเป็นโมฆะหรือโมฆียะหรือบังคับใช้ไม่ได้เพราะละเมิดหรือขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับใด ความสมบูรณ์บังคับใช้ได้ของเงื่อนไขส่วนที่เหลือมิให้ถูกกระทบตามไปด้วย ผู้ใช้ตกลงว่า บริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขส่วนที่เป็นโมฆะหรือโมฆียะได้ แต่การแก้ไขเพิ่มเติมต้องสะท้อนเจตนารมณ์ที่เงื่อนไขแสดงไว้เท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

  15. กฎหมายที่ใช้บังคับและเขตอำนาจศาล

    เงื่อนไขให้บังคับตามฉบับภาษาไทยและตามกฎหมายไทย ในกรณีมีข้อพิพาทใดระหว่างผู้ใช้กับบริษัทอันเกิดจากหรือเกี่ยวกับบริการ เงื่อนไข หรือระเบียบข้อบังคับอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุไว้ในเอกสารนี้แต่ละฝ่ายตกลงให้ศาลแขวงไทยเป็นศาลชั้นต้น ทั้งนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

  16. นโยบายความเป็นส่วนตัว
    1. วัตถุประสงค์

      นโยบายฉบับนี้ ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ และบริษัทจะจัดเก็บ บันทึก ยึดถือ เก็บรักษา เปิดเผย โอน หรือใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว

      บรัษัทจะจัดเก็บข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ และที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อทางธุรกิจระหว่างผู้ใช้กับบริษัท โดยข้อมูลของผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในระยะเวลาเพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำหรือในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ

      ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหรือเยี่ยมชมแพลตฟอร์ม (platform) (ตามความหมายที่ให้ไว้ในข้อตกลงการใช้บริการ) และเลือกชมสินค้าโดยไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ ระหว่างที่ผู้ใช้เยี่ยมชมแพลตฟอร์มสถานะของผู้ใช้จะไม่เป็นที่เปิดเผย และเราจะไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้ได้ตลอดเวลาที่เข้าเยี่ยมชมแพลตฟอร์ม เว้นแต่ผู้ใช้จะได้มีบัญชีบนแพลตฟอร์มและผู้ใช้ได้เข้าสู่ระบบโดยใช้ชื่อบัญชีและรหัสผ่าน หากผู้ใช้มีความคิดเห็น คำแนะนำหรือคำติชม ผู้ใช้สามารถติดต่อบริษัท (และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล) โดยทางอีเมล: kidkai2021@gmail.com

    2. ข้อมูลส่วนบุคคล

      ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล เว็บไซต์ call center ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใดๆ อนี่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท

    3. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

      เมื่อผู้ใช้สร้างบัญชีหรือให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านทางแพลตฟอร์ม ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย อาจรวมถึงข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้

      • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง
      • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์
      • ข้อมูลทางการเงิน เช่น อาชีพ รายได้ อายุงาน วงเงินกู้ ยอดหนี้คงเหลือ ข้อมูลและรายการทรัพย์สิน ที่ตั้งหลักทรัพย์ วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ระยะเวลาผ่อนชำระ ยอดผ่อนต่อเดือน สถาบันการเงินที่เคยใช้บริการ รายรับ รายจ่าย เลขบัญชีเงินฝาก จำนวนเงินฝาก ดอกเบี้ย เลขบัตรเครดิต เลขบัตรเดบิต ประวัติทางการเงิน เป็นต้น
      • ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น สัญญากู้ สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่าซื้อ หนังสือคุ้มครองชั่วคราว รายการเดินบัญชี การชำระเงิน การกู้ยืมเงิน การลงทุน เป็นต้น
      • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address MAC address Cookie ID
      • ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      ผู้ใช้จะต้องจัดส่งข้อมูลให้แก่บริษัท หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของเรา หรือจัดส่งเข้าสู่แพลตฟอร์มเท่านั้น และข้อมูลดังกล่าวจะต้องเป็นข้อมูลที่ ถูกต้องแท้จริง ครบถ้วน และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ผู้ใช้จะต้องอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ บริษัทสงวนสิทธิที่จะร้องขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ให้มานั้นถูกต้อง

      หากผู้ใช้เลือกจะไม่ส่งข้อมูลส่วนตัวให้แก่บริษัทหรือเลือกที่จะเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนตัว บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการของเราแก่ผู้ใช้ได้ หากผู้ใช้ได้ส่งมอบข้อมูลของบุคคลภายนอกให้แก่บริษัท บริษัทจะถือว่าผู้ใช้ได้รับความยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากบุคคลภายนอกผู้เกี่ยวข้องที่จะเปิดเผยและส่งมอบข้อมูลส่วนตัวนั้นๆ

      หากผู้ใช้สมัครเพื่อใช้งาน แพลตฟอร์มโดยผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดีย (social media) หรือเชื่อมต่อ แพลตฟอร์มกับบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ใช้ บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้โดยสมัครใจกับบัญชีโซเชียลมีเดียผ่านทางผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายนั้นๆ ภายใต้นโยบายต่างๆ ของผู้ให้บริการ

    4. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนที่ได้รับจากผู้ใช้และ/หรือส่งต่อแก่บุคคลภายนอก (รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการภายนอก ผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก) เพื่อประโยชน์ของกิจการทั้งหมดหรือแต่บางส่วนดังจะได้กล่าวต่อไปนี้

      • เพื่อให้ท่านสามารถใช้และ/หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทและ/หรือสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการและ/หรือการใช้แพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น
      • เพื่อดำเนินการตามคำสั่งของผู้ใช้ที่ส่งผ่านทางแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าโดยบริษัท หรือผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก การจ่ายเงินของผู้ใช้ผ่านทางแพลตฟอร์มสำหรับสินค้า ไม่ว่าจะขายโดยบริษัท หรือผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอกจะถูกจัดการโดยตัวแทนของบริษัท
      • เพื่อการจัดส่งสินค้าที่ท่านได้ซื้อผ่านทางแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะขายโดยบริษัทหรือผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก บริษัทอาจส่งต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แก่บุคคลภายนอกเพื่อการจัดส่งสินสินค้าให้แก่ผู้ใช้ (เช่น ส่งให้บริษัทจำจัดหน่ายรถยนต์ ซึ่งเป็นผู้มอบข้อเสนอให้แก่ผู้ใช้) ไม่ว่าจะขายโดยบริษัท หรือผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก
      • เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะขายผ่านแพลตฟอร์มโดยบริษัทหรือผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก และเพื่อการบริการลูกค้าอื่นๆ
      • เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลและตรวจสอบกับบุคคลภายนอกเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูล
      • อีกทั้ง บริษัทจะใช้ข้อมูลที่ผู้ใช้ที่ได้ส่งมอบให้เพื่อตรวจสอบและจัดการการธุรกรรมทางการเงินอันเกี่ยวกับการจ่ายเงินที่ผู้ใช้ได้จัดทำขึ้นทางอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์ เพื่อตรวจสอบการดาวน์โหลดข้อมูลจากแพลตฟอร์ม เพื่อพัฒนาแผนผัง การจัดหน้าและเนื้อหาของหน้าต่างๆ ของแพลตฟอร์มและปรับแต่งสำหรับผู้ใช้ เพื่อระบุตัวตนผู้เข้าใช้ เพื่อการวิเคราะห์สถิติและพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อจัดส่งข้อมูลที่บริษัทคาดว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ใช้หรือที่ผู้ใช้ได้ร้องขอจากบริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทและของผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก เว้นแต่ผู้ใช้จะได้ปฏิเสธการติดต่อเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
      • เมื่อท่านได้สมัครเพื่อเปิดบัญชีการใช้บริการทางแพลตฟอร์ม หรือได้ส่งมอบข้อมูลส่วนตัว บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เพื่อส่งข่าวสารทางการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัทหรือของผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว โดยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ผู้ใช้สามารถยกเลิกการรับข้อมูลการตลาดได้ตลอดเวลา โดยการใช้ช่องทางการยกเลิกการรับข้อมูลที่อยู่ในแพลตฟอร์ม
      • ในกรณีที่เป็นข้อยกเว้น บริษัทถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่นในกรณีที่มีมูลให้เชื่อว่าการเปิดเผยดังกล่าวอาจป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย สำหรับวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือการร้องขออื่นใด
      • บริษัทอาจส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ให้แก่บุคคลภายนอกและ/หรือบริษัทในเครือและ/หรือพาร์เนอร์ทางธุรกิจ คู่ค้า สำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อดำเนินธุรกรรมต่างๆ กับผู้ใช้ให้สำเร็จ จัดการบัญชีการใช้บริการ จัดการความสัมพันธ์อื่นๆ การตลาด การประชาสัมพันธ์ การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ การร้องขออื่นๆ ที่บริษัท เห็นว่าจำเป็น ในการแบ่งปันข้อมูลให้แก่บุคคลดังกล่าว อนึ่ง บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ในต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud และ/หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูล Google Analytic เป็นต้น
      • วัตถุประสงค์อื่นใด ที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฎิบัติตามกฎหมาย
    5. การเพิกถอนความยินยอม

      ผู้ใช้อาจส่งคำคัดค้านการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านสำหรับกิจการต่างๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน แก่บริษัทได้ตลอดเวลา โดยติดต่อเราผ่านทางอีเมล kidkai2021@gmail.com โปรดทราบว่าหากผู้ใช้ได้ส่งคำคัดค้านการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว สำหรับกิจการต่าง ๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน บริษัทอาจไม่อยู่ในสถานะที่จะจัดส่งสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ใช้หรือปฏิบัติตามสัญญาได้ บริษัทขอสงวนสิทธิทางกฎหมายและการเยียวยาไว้โดยชัดแจ้งในกรณีซึ่งบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าหรือให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาต่อผู้ใช้ได้อันเกิดจากคำคัดค้านดังกล่าว

    6. การอัพเดทหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว

      ผู้ใช้สามารถอัพเดทหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวได้ตลอดเวลาโดยการเข้าสู่บัญชีการใช้บริการของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มของบริษัท บริษัทจะดำเนินการส่งข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับการปรับเปลี่ยนแล้วแก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือที่ บริษัทได้แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ยังคงจำเป็นต่อกิจการที่กล่าวไว้ข้างบน

    7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

      รหัสผ่านของผู้ใช้เป็นกุญแจสำหรับบัญชีการใช้บริการ กรุณาใช้ตัวเลขและ/หรือตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน และไม่แบ่งปันรหัสผ่าน ให้แก่ผู้อื่น หากผู้ใช้ได้แบ่งปันรหัสผ่านแก่ผู้อื่น ผู้ใช้จะรับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆ ที่ได้กระทำลงในนามหรือผ่านทางบัญชีการใช้บริการของผู้ใช้และผลที่ตามมา หากผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมรหัสผ่านได้ ผู้ใช้อาจไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งให้แก่บริษัท ผู้ใช้อาจต้องยอมรับนิติกรรมใดๆ ที่ทำลงในนามของผู้ใช้ ดังนั้นหากรหัสผ่านของผู้ใช้ถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับอีกต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ หรือมีเหตุที่อาจเชื่อได้ว่ารหัสผ่านนั้นถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับอีกต่อไป ผู้ใช้ควรทำการเปลี่ยนรหัสผ่านหรือติดต่อบริษัท เราขอเตือนทุกครั้งเมื่อใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะให้ผู้ใช้ออกจากระบบบัญชีการใช้บริการ (log out) และปิดบราวเซอร์ (browser)

      เมื่อผู้ใช้เข้าสู่แพลตฟอร์ม บริษัทหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตอาจจะใช้ โปรแกรม คุกกี้ (cookies) เว็บ บีคอน (web beacons) หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเพื่อจัดเก็บข้อมูล เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถจัดให้มีการบริการให้ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น

    8. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อการให้บริการแก่ท่าน เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ เพื่อการทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ เพื่อการบริหารกิจการ เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อให้ผู้อื่นให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท เพื่อการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ เช่น บริษัทในกลุ่มธุรกิจ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (co-brand) ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้ตรวจสอบภายนอก บริษัทบริหารสินทรัพย์ บริษัทข้อมูลเครดิต ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิและ/หรือผู้รับโอนสิทธิในธุรกรรมหรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

      บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดี เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับของบริษัท

      อนึ่ง บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ไม่มีวิธีการใดที่จะปกป้องหรือป้องกันการเจาะระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลผู้ไม่ได้รับอนุญาต หรือมีวิธีการใดๆ ในการจัดเก็บข้อมูลให้มีความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ บริษัทจึงไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องหรือความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฎิเสธความรับผิดในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณี

    9. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล

      สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์

      1. สิทธิขอถอนความยินยอม

        หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

        ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

      2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

        ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าว รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของการได้มาซึ่งข้อมูล

      3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

        ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีทีบริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

        ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

      4. สิทธิขอคัดค้าน

        ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการฟ้องร้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ ได้

      5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

        ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

      6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

        ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

      7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

        ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

      8. สิทธิร้องเรียน

        ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

      9. สิทธิที่มีเหตุจำเป็น

        การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธ คำขอข้างต้น จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

    10. สิทธิของบริษัท

      ผู้ใช้รับทราบและตกลงว่าบริษัทมีสิทธิในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่ หน่วยงานผู้มีอำนาจทางกฎหมาย หน่วยงานการกำกับควบคุมดูแล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเกี่ยวกับภาษี หน่วยงานในการบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าของสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หากบริษัทมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้นั้นจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามหน้าที่ ความรับผิดชอบ การจัดการและข้อตกลง ไม่ว่าโดยสมัครใจหรือการบังคับ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความร่วมมือกับคำสั่ง การสอบสวน และ/หรือการร้องขอในรูปแบบต่าง ๆ ของหน่วยงานนั้น ๆ ภายใต้การบังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้ตกลงว่าจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆ ต่อบริษัทและสละสิทธิเรียกร้องหรือสิทธิอื่นใดอันมีต่อบริษัท ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น รวมถึง กรณี บุคคลผู้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เสียชีวิตลง บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบหรือได้รับความยินยอมจากทายาท

    11. การติดต่อบริษัท

      หากท่านต้องการเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน ขอเรียกดูข้อมูลและ/หรือมีคำถาม ความคิดเห็น ข้อกังวล หรือขอความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค กรุณาติดต่อเรา (และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล) ได้ผ่านทางอีเมล kidkai.contact@gmail.com