10 ปัจจัยสำคัญ เลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ…สุดปัง!!

10 ปัจจัยสำคัญ เลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ…สุดปัง!!

สำหรับคนที่ชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อได้เที่ยวไปจนทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป้าหมายสุดท้ายของบางคนก็อยากหยุดไว้ที่การมีบ้านพักตากอากาศเป็นของตัวเองสักหลัง แต่ก็นั่นแหละ การจะมีบ้านพักตากอากาศนั้นก็ต้องใช้เงิน จนทำให้หลายคนมองว่าคนที่จะมีบ้านพักตากอากาศได้นั้นจะต้องมีฐานะและมีเงินพอสมควร จริงๆ แล้ว “บ้านพักตากอากาศ” ก็ไม่ได้มีไว้แค่เป็นที่พักผ่อนอย่างเดียวนะ แต่เป็นยังเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งทำได้ทั้งการปล่อยให้เช่า หรือเก็บไว้ขายในอนาคตเมื่อที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น ถือเป็นการลงทุนคุ้มค่าไม่น้อย ดังนั้น การเลือกทำเลที่ตั้งที่ดีจึงเป็นหัวใจของการเลือกสร้างบ้านพักตากอากาศ มาดูและเช็กลิสต์ไปพร้อมๆ กันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราจะต้องพิจารณาในการเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ

10 ปัจจัยสำคัญ เลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ…สุดปัง!!

  1. เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการสร้างบ้านตากอากาศ…เพื่ออะไร? : เราจะต้องคิดถึงความต้องการ เป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ของการสร้างบ้านพักตากอากาศนี้ว่า เราจะสร้างเพื่ออยู่อาศัยเอง ปล่อยให้เช่า หรือเพื่อเก็งกำไรในอนาคต ซึ่งถ้าเรามีเป้าหมายแล้ว จะทำให้เราเลือกทำเลได้ง่ายขึ้นและสามารถเลือกได้เหมาะกับเป้าหมายที่วางไว้อีกด้วย เช่น ถ้าเราจะสร้างบ้านพักตากอากาศนี้เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่และใช้อยู่อาศัยเอง เราก็เลือกตามความชอบ ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเราได้เลย แต่ถ้าเราคิดจะสร้างไว้เพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรเป็นการลงทุน เราก็จะต้องเลือกทำเลที่เป็นที่ต้องการ เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและสาธารณูปโภคต่างๆ นั่นเอง                                                                             
  2. ตรวจสอบงบประมาณในการสร้างบ้านพักตากอากาศ : การตรวจสอบงบประมาณตัวเองก่อนการเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้เราสามารถเตรียมความพร้อมในการซื้อและสร้างบ้านพักตากอากาศในครั้งนี้ได้ เป็นการตีกรอบค่าใช้จ่ายไม่ให้งบบานปลาย ควรจะต้องมีการศึกษาข้อมูลหรือสอบถามผู้รู้ เตรียมตัวตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง งานโครงสร้าง วัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย เตรียมตัวให้ดีก่อนลงมือทำ อย่าทำให้กลายเป็นคำกล่าวที่ว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”.                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               
  3. รูปแบบการใช้งานบ้านพักตากอากาศ : ต้องเข้าใจว่า การเลือกบ้านพักตากอากาศนั้นจะแตกต่างกับการเลือกบ้านอยู่อาศัยปกติตรงที่เราควรเลือกบ้านพักตากอากาศจากความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นหลัก เช่น เลือกบ้านที่เน้นเห็นวิวทิวทัศน์สวยงาม มีขนาดพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้ลดค่าใช้จ่าย และดูแลรักษาหรือซ่อมแซมง่ายขึ้น                                                                                                                                                                                           
  4. ค่าใช้จ่ายที่งอกเงยเมื่อไม่อยู่บ้าน : การมีบ้าน และแน่นอนว่ายิ่งเป็นบ้านหลังที่สองที่สามแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็จะมีตามมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะบ้านที่เราไม่ได้อยู่ตลอดเวลา แต่การดูแลรักษาก็ต้องมี ดังนั้น ค่าใช้จ่ายหลักเลยก็จะเป็นเรื่องของค่าจ้างแม่บ้านในการดูแลรักษา การทำความสะอาด และหากเป็นบ้านที่ขอกู้ซื้อจากธนาคารแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่หรือไม่อยู่ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกับธนาคารก็ยังต้องจ่ายอยู่นั่นเอง ซึ่งจากรายจ่ายเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเราสามารถทดแทนในระหว่างที่เราไม่ได้ไปพัก ก็อาจจะปล่อยให้เช่าเป็นรายวันหรือรายเดือนไปก่อน เพื่อให้มีรายได้มาหมุนเวียนแบ่งเบาภาระในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้                                                                                                                           
  5. เบื่อง่ายหรือไม่ : การเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศนั้น ถ้าเราเลือกเพียงเพราะความอยากได้หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบ เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราไม่ชอบ เกิดเบื่อ อยากไปพักที่อื่น นี่คืออาการของคนขี้เบื่อ หรือเบื่อง่าย ทำให้ไม่ค่อยได้ไป สุดท้ายก็คือทิ้งบ้านพักตากอากาศหลังนี้ให้ร้าง ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจจะเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศสักหลัง เราควรถามตัวเองให้ดีว่า ถ้าเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศหลังนี้แล้วจะมาพักบ่อยแค่ไหน สำรวจไลฟ์สไตล์ของตัวเองดูว่าเป็นคนเบื่อง่ายมั้ย เพราะต้องไม่ลืมว่า ถ้าตัดสินใจไปแล้วสิ่งที่ตามมาแน่นอน คงหนีไม่พ้นเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะมีมาขึ้นเรื่อยๆ เราจะต้องคิดให้ดีว่าเมื่อเลือกซื้อแล้วมันคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไปหรือไม่ อย่าคิดเพียงว่า ไม่ชอบหรือเบื่อก็ขายต่อ เพราะการขายบ้านพักตากอากาศแต่ละหลังไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งกว่าจะขายได้อาจต้องใช้เวลานานกว่าการขายบ้านทั่วไป                                                                                                                                                                                         
  6. ช่วงเวลาที่เหมาะกับการไปพัก : ขึ้นชื่อว่าบ้านพักตากอากาศแล้ว ความสวยงามของแต่ละช่วงระยะเวลามีความแตกต่างกัน เช่น บ้านพักที่อยู่ในภาคเหนือหรือบนภูเขาก็จะสวยงามและน่าอยู่ในช่วงอากาศหนาวเย็น แต่ถ้าบ้านพักที่อยู่ติดทะเลก็จะเหมาะกับการเที่ยวช่วงหน้าร้อน เพราะคลื่นลมสงบ ดังนั้น ช่วงเวลาที่เราสะดวกเข้าพักและเหมาะสมที่สุดจึงเกี่ยวข้องกับการเลือกทำเลในการสร้างบ้านพักตากอากาศด้วย                                                                                                    
  7. ระยะเวลาในการเดินทาง : ระยะทางที่ใช้ในการเดินทางระหว่างบ้านที่อยู่ประจำกับบ้านพักตากอากาศก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ โดยปกติแล้วการเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศนั้นไม่ควรไกลมากหรือใช้เวลาในการเดินทางนานเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้เราเหนื่อยกับการเดินทางแล้ว ยังจะต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางอีกด้วย แทนที่จะใช้เวลาไปกับการพักผ่อน อาจจะต้องใช้เวลากับการเดินทางและอยู่บนท้องถนนมากกว่าการอยู่ในบ้านพักตากอากาศนั่นเอง                 
  8. ความปลอดภัยของทำเล : ในการเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศนี้ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามและมองข้ามไม่ได้เลย นั่นก็คือเรื่องความปลอดภัย โดยเราจะต้องดูทั้งในส่วนของตัวบ้าน และสภาพแวดล้อมของทำเลที่ตั้งบ้านพักตากอากาศของเราด้วย ซึ่งอาจจะเป็นการพูดคุย สอบถามจากคนในพื้นที่ หรือหาข้อมูลจากช่องทางโซเชียลและสื่อออนไลน์ต่างๆ แล้วลองสำรวจด้วยตัวเอง ให้ครอบคลุมทั้งกลางวันและกลางคืนว่าที่ตรงนั้นมีประวัติหรือเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างมั้ย เพื่อให้การเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศมีความปลอดภัยในระหว่างการพักผ่อนจริงๆ                                                                                                                                                                                                                                        
  9. การดูแลรักษาบ้านพักตากอากาศ : การมีบ้านพักตากอากาศนั้น นับเป็นการมีบ้านหลังที่สอง ซึ่งไม่ใช่บ้านหลังหลักที่ใช้อยู่ประจำในการดำงชีวิต แต่เป็นบ้านที่มีไว้สำหรับการพักผ่อนเป็นครั้งคราว แต่ต้องไม่ลืมว่าบ้านพักตากอากาศนี้ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลเรื่องความสะอาด การดูแลรักษาเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ถ้าเราไม่ได้เข้าไปดูแลเป็นประจำด้วยตัวเอง เราควรจะต้องจ้างให้มีคนมาดูแลแทนในระหว่างที่เราไม่ได้เข้าไป เพราะถ้าปล่อยไว้เฉยๆ โดยไม่มีการดูแลเป็นประจำอาจทำให้บ้านพักตากอากาศตกอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ไม่น่าอยู่ และมีผลในระยะยาวทำให้สินทรัพย์นี้ราคาตกได้                                                                                                                                                                               
  10. ช่องทางโอกาสสำหรับการลงทุนในอนาคต : ในปัจจัยข้อนี้บอกไว้เผื่อทั้งคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน และชอบมองหาช่องทางในการลงทุนจากสิ่งที่เรามีไปพร้อมกัน ซึ่งการเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้เราได้ประโยชน์จากการลงทุนนี้ได้ ดังนั้น การเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศ นอกจากจะเลือกจากความชอบ ความพึงพอใจของตัวเองแล้ว เราจะต้องหาข้อมูลด้วยว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นสามารถเพิ่มมูลค่าได้มากน้อยแค่ไหน หากเราจะใช้ในการปล่อยเช่าเมื่อเวลาที่เราไม่ได้เข้าพัก หรือถ้าคิดจะขายต่อก็ยังได้ราคา โดยทำเลที่ดีเป็นหัวใจของการเลือกสร้างบ้านพักตากอากาศทั้งในแง่ของการพักผ่อน และการลงทุน ควรเป็นทำเลที่ใกล้กับสถานที่พักผ่อน เช่น ทะเล ภูเขา พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ ร้านค้า ร้านอาหาร เดินทางสะดวก ปลอดภัย ไม่ไกลจากระบบบริการขนส่งสาธารณะ เพราะสำหรับในแง่การลงทุนแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ได้ถึง 15% แถมเพิ่มความต้องการซื้อได้ถึง 30% อีกด้วย

 

สุดท้ายนี้…การเลือกทำเลสร้างบ้านพักตากอากาศนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากจนเกินไป เนื่องจากบ้านแต่ละหลังมีราคาค่อนข้างสูง การคิดตัดสินใจก็จะต้องคิดให้รอบคอบและจะต้องพิจารณาให้มากกว่าการซื้อบ้านปกติทั่วไป โดยเราควรศึกษาหาข้อมูลถึงพื้นที่และสถานการณ์ของแหล่งท่องเที่ยวที่เราชื่นชอบ พร้อมกับตรวจสอบความต้องการของเราจริงๆ ว่าชอบทำเลที่เลือกนี้จริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะเริ่มจากการเดินทางไปพักที่โรงแรมหรือรีสอร์ทแถวนั้นบ่อยๆ สำรวจความชอบและความเบื่อว่ามีมากน้อยแค่ไหน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา อย่ารีบตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ คิดให้รอบคอบและครบถ้วนในทุกมิติ แล้วสิ่งที่เราได้มาเมื่อเทียบกับเงินที่ต้องเสียไป ก็จะได้กลับมาอย่างมีประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง